เรื่องเล่าจากอาสายุวพัฒน์ ตอนที่ 2 (คุณทิว)

พี่ธิวพีรศักดิ๋ ศิริสวัสดิ์ แม้จะผ่านงานอาสาสมัครมาไม่มากนัก แต่ประสบการณ์จากการได้เป็นอาสาสมัครลงพื้นที่สำรจโรงเรียนทำให้พี่ธิวตระหนักได้มากขึ้น ว่าหากคนอื่นๆ หรือคนรอบข้างของเราไม่มีความสุข ตัวเราเองก็คงจะไม่มีความสุข เพราะทุกคนต้องอยู่ในสังคมเดียวกันทุกอย่างมีความเกี่ยวเนื่องและส่งผลกระทบถึงกันทั้งสิ้น เป้าหมายในชีวิตคือเราต้องช่วยคนอื่นในวันที่เราพร้อมจะแบ่งปัน พี่ธิวเปิดใจเล่าให้ฟัง ว่าวีชิตของพี่ธิวในวัยเด็กไม่สมบูรณ์มากนัก ฐานะทางบ้านค่อนข้างลำบาก แต่เพราะเป็นเด็กตั้งใจเรียนถึงให้ได้รับทุนการเรียนศึกษามาตลอด ปัญหาเรื่องค่าใช้จ่ายในการเรียนจึงไม่หนักมากนัก และโดยส่วนตัวแล้วพี่ธิวชอบทำกิจกรรม เพราะฉะนั้นหากมีกิจกรรมอะไรก็ตามที่สามารถช่วยได้โดยไม่ต้องใช้เงิน แต่สารถทำได้ด้วยการลงแรงหรือใช้ความสามารุที่พี่ธิวมี พี่ธิวยิงที่จะทำทุกอย่าง กระทั่งพี่ธิวเรียนจบ มีงานที่มั่นคงทำให้รู้สึกว่าตัวเองพร้อมแล้วที่จะแบ่งปันให้ผู้อื่นอย่างที่เคยตั้งใจไว้ จึงเริ่มมองหากิจกรรมจิตอาสาทำอย่างจริงจัง เพราะอยากให้เวลาว่างของตัวเองให้เป็นประโยชน์กับคนอื่นบ้างการได้ลงมือทำงานจิตอาสาทำให้ชีวิตเปลี่ยนไปในทางที่ดีขึ้นจากประสบการณ์การเป็นหนึ่งในทีมอาสาสำรวจโรงเรียนของมูลนิธิยุวพัฒน์ พี่ธิวเล่าด้วยน้ำเสียงจริงจัง ว่าการทำงานครั้งนั้นทำให้เห็นถึงปัญหามากขึ้นกว่าเดิม เมื่อก่อนนั้นมองเห็นปัญหาแค่ว่าคนๆ นั้นจะได้รับผลจากปัญหาที่เกิดขึ้นอย่างไรบ้าง แต่ไม่เคยคิดเลยว่าปัญหาของคนหนึ่นึ่งคนซึ่งไม่ได้รับการแก้ไขนั้นสารถส่งผลกระทบถึงคนรอบข้าง สังคม และประเทศชาติได้ กระทั่งได้ลงมือปฏิบัติงานจริง จึงทำให้มองเห็นชัดเจน ว่าทุกอย่างส่งผลกระทบถึงกัน เราคงมีความสุขไม่ได้ หากคนอื่นๆ ยังไม่มีความสุข ประสบการณ์การได้เป็นจิตอาสา
ทำให้พี่ธิวตระหนักในปัญหาและเข้าใจในปัญหาที่มีความหลากหลายว่าที่เคยคิดพี่ธิวบอกว่าจากการได้สัมภัสถึงปัญหาที่เกิดขึ้น ทำให้พี่ธิวติดสินใจว่าถึงเวลาแล้วที่ตัวเองจะต้องเป็นส่วนหนึ่งในการช่วยแบ่งเบาปัญหาที่เกิดให้เบาบางลง แม้ว่าเราจะเป็นเพียงจุดเล็ก ๆ ก็ตามและต้องเริ่มตั้งแต่วันนี้ และยิ่งกว่านั้น การเป็นอาสาสมัครทำให้พี่ธิวมีมุมมองบางอย่างที่เปลี่ยนไปการเปลี่ยนแปลงนั้นได้กำหนดวิถีการดำเนินชีวิตปัจุบันของพี่ธิวให้แตกต่างจากเดิมสิ่งที่เห็นได้ชัดเจนมากที่สุด คือการเห็นคุณค่าของตัวเองมากขึ้น เริ่มดูแลตัวเองระมัดระวังเรื่องการใช้ชีวิต เพราะรู้ว่าชีวิตเราสามารถทำอะไรดีๆ เพื่อส่วนรวมได้อีกมากมาย เริ่มมีความเห็นนอกเห็นใจคนรอบข้าง มองเห็นตัวเองก่อนผู้อื่นน้อยลงและเห็นคุณค่าของคนอื่นมากขึ้นการเสียสละคืออีกหนึ่งหน้าที่ของความเป็นมนุษย์เมื่อถามพี่ธิวว่า งานจิตอาสาในความคิดพี่ธิวนั้นสำคัญมากแค่ไหนคำตอบที่ได้ยินชัดจน ว่างานจิตอาสาคือสิ่งที่ทุกคนต้องทำ รู้สึกว่ามันเป็นสิ่งที่ต้องทำ ต้องช่วยกัน สังคมประกอบด้วยคนหลากคน สังคมต้องการกำลังจากคนหลายๆ ส่วน เราถือเป็นหนึ่งกำลังงานอาสาคือการจัดสรร การบริหารเวลาเพื่อให้คนอื่นมีความสุข มีชีวิตดีขึ้น ก็เป็นสิ่งที่เราควรทำ ไม่มีการกระทำใดสูญเปล่าๆ ทุกๆการกระทำจะมีผลกลับมาเสมอ การเสียสละเพื่อคนอื่นคือหน้าที่หนึ่งมนุษย์ ถ้าวันนี้เรากำลังลำบากขอให้จดจำความรู้สึกนี้และเปลี่ยนเป็นพลังบวก เพื่อช่วยคนที่ลำบากกว่าว่าในวันที่เราพร้อมพี่ธิวทิ้งท้ายๆน้องๆ นักเรียนยุวพัฒน์ทุกคนว่า “อยากให้น้องๆทุกคนจดจำวันที่เราลำบากว่าความรู้สึกนั้นเป็นอย่างไร ความลำบากทำให้ชีวิตเราเป็นอย่างไร เรียนรู้และอดทน เปลี่ยนความลำบากให้เป็นพลังงานบวก และเชื่อมั่นว่าอนาคตเราต้องดีขึ้นมากกว่านี้ และหากวันใดที่เราดีขึ้น ให้เราแบ่งปันเพื่อคนอื่น ช่วยคนที่เขาลำบากเหมือนเราให้มีชีวิตที่ดีขึ้นครับ”