ในยุคนี้น้องๆ ที่อยู่วัยเรียนหลายคนกำลังปรับตัวกับการเรียนแบบ New Normal การเปลี่ยนแปลงครั้งใหม่นี้ทำให้พวกเขายังไม่คุ้นชินและไม่รู้วิธีการจัดการเวลาอย่างไร เพื่อให้ส่งงานคุณครูได้ตรงเวลา ถึงแม้การบ้านจะมีมากมาย และภารกิจส่วนตัวที่ยุ่งเหยิง แต่ถ้ากำหนดเวลาให้แต่ละงาน แต่ละกิจกรรมได้ ทุกคนจะมีเวลาไปทำเรื่องอย่างอื่นได้อีกมากมาย ด้วยการฝึกทำ Time Boxing หรือ เรียกง่ายๆ ว่าตารางเวลาจัดการภารกิจ ซึ่งเป็นเครื่องมือที่ช่วยเรื่องการบริหารเวลาได้อย่างดีเยี่ยม

Time Boxing คืออะไร?

Time Boxing คือ การวางแผนการทำงานล่วงหน้าเพื่อกำหนดเวลาอย่างแน่นอนในการทำงานแต่ละงาน โดยกำหนดช่วงเวลางานแต่ละงานเป็นช่วงๆ หรือ ​Timebox และเมื่อเรามีการกำหนดเวลาที่แน่นอนแล้ว ก็เหมือนกับการกำหนด Dead Line ให้กับงานชิ้นนั้นๆ เพื่อให้เสร็จสิ้นตามเวลาที่วางแผนไว้ และไม่กระทบต่อเวลาของงานชิ้นต่อไป

ขั้นตอนในการทำ Time Boxing

  1. เขียนงานหรือกิจกรรมที่ต้องทำในแต่ละวัน
  2. สร้างตารางเวลาขึ้นมา โดยกำหนดวันและเวลา
  3. ระบุงานที่จะทำลงไปในช่องเวลาต่างๆ
  4. ติด “Time Boxing” ไว้หน้าห้องหรือที่ที่มองเห็นได้ชัดเจน
  5. ท้าทายตัวเอง “เอาเลย!!! ทำตามตารางให้ได้ อยากรู้เหมือนกันว่าตัวเองจะเก่งแค่ไหน”
  6. ให้รางวัลกับตัวเอง หากทำได้ตามที่กำหนด (ทำได้บ้างไม่ได้บ้างก็ไม่เป็นไร แค่ได้ลงมือทำ)

ตัวอย่าง Time Boxing 

สามารถใช้สีในการแบ่งงานที่ต้องทำได้ เพื่อช่วยให้เห็นได้ชัดเจนว่างานและกิจกรรมที่มีมากมายนั้น
สามารถจัดสรรให้ลงตัวได้ และควรมีช่องสำหรับพักผ่อนด้วยเพื่อให้การฝึกวินัยจะได้ไม่เครียดและหนักเกินไป
จะทำให้เราสนุกกับการบริหารเวลาในแต่ละวันอีกด้วย

รูปแบบ Time Boxing โหลดใช้งานได้ฟรี

Cr.https://ondadesk.com/time-boxing/

ประโยชน์ของการบริหารเวลาโดยการใช้ Time Boxing

  • สามารถควบคุมเวลาของตัวเองได้
  • ช่วยในการตัดสินใจว่าจะทำอะไรต่อไปเพราะเราได้วางแผนการใช้เวลาของเราล่วงหน้าแล้วว่าช่วงเวลานี้เราจะทำงานอะไร และเมื่อเสร็จจะต้องทำงานไหนต่อ
  • เมื่อมีการกำหนดช่วงเวลาที่ทำงานอย่างแน่นอนจะช่วยให้เรามีสมาธิในการทำงานชิ้นนั้นๆ
  • ช่วยให้เรามีแรงผลักดันที่ดีในการทำงานให้เสร็จตามเวลาที่กำหนดไม่เสียเวลาไปโดยเปล่าประโยชน์
  • เป็นเครื่องมือที่ช่วยทบทวนตัวเอง เพราะสามารถกลับมาดูได้ว่าวันนั้นหรือสัปดาห์นั้นเราทำอะไรไปบ้างมีอะไรสำเร็จตามที่วางแผนบ้าง
  • ช่วยเพิ่มแรงกระตุ้นให้ทำงานต่อไปได้ เพราะเราทำงานก่อนหน้านี้สำเร็จไปแล้ว จะมีกำลังใจในการทำงานชิ้นต่อไป

ข้อควรระวัง

  • พยายามประเมินเวลาในการทำงานหรือกิจกรรมอะไรอย่างตรงไปตรงมา ไม่ประเมินเวลาต่ำกว่าความเป็นจริงเกินไป เพื่อว่าเมื่อถึงเวลาทำงานนั้นๆ จะได้สามารถทำเสร็จสิ้นได้ตามที่วางแผนไว้
  • อย่าใส่งานหรือกิจกรรมในแต่ละวันมากเกินไป เพราะมนุษย์เรามีขีดจำกัดของความสามารถในการทำงาน ยิ่งเราพยายามจะทำงานเยอะเกินกำลังมากเท่าไร เราจะยิ่งทำให้สำเร็จได้น้อยลง
  • ควรเผื่อเวลาในการพักผ่อน หรือพักจากงานหรือกิจกรรมด้วย