เสาวนีย์  บูรณะวานิช (แดง)
อดีตนักเรียนทุนยุวพัฒน์สามัญ ปี 37 จังหวัดสุรินทร์
ปัจจุบัน : ประกอบธุรกิจส่วนตัว

ชีวิตในวัยเด็กเป็นอย่างไรบ้าง

ตอนเด็กเป็นคนซนๆ แก่นๆ และชอบไปโรงเรียนมาก ชอบเรียนหนังสือแต่วิชาที่ชอบมากๆ และทำได้ดี คือ วิชาภาษาอังกฤษ สมัยนั้นเริ่มเรียนภาษาอังกฤษตอนชั้นประถม 5 เรียนได้ไม่เท่าไหร่ก็สามารถสะกดชื่อ นามสกุลตัวเองเป็นภาษาอังกฤษได้แล้ว รู้สึกว่าสนุกทุกครั้งที่เรียนภาษาอังกฤษ ส่วนครอบครัวก็ใช้ชีวิตเหมือนเด็กชนบททั่วๆ ไป ถ้าคิดถึงในตอนนั้นถือว่าในวัยเด็กไม่ได้ลำบากมากนัก มีทุ่งนา ดินทรายเป็นของเล่น แต่ไม่ได้มีตุ๊กตาน่ารักๆ คิดว่าสิ่งรอบตัวที่มีก็ทำให้ชีวิตมีความสุขนะ

มีวิธีอย่างไรที่จะฝึกภาษาอังกฤษให้ดีขึ้น

สำหรับเราเองอาจจะโชคดีตรงที่มีความชอบเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว เพราะฉะนั้นอะไรที่เป็นภาษาอังกฤษเราอยากรู้หมดทุกอย่าง เวลาเรียนในชั้นเรียนจะตั้งใจมาก พยายามออกเสียงตามที่ครูสอน เพราะอยากออกเสียงได้ถูกต้องและใกล้เคียงกับเจ้าของภาษา ขยันท่องไวยกรณ์ เพราะฉะนั้นเวลาที่พูดหรือเขียนภาษาอังกฤษมักจะทำได้ดี  มีผิดบ้างไม่ได้ถูกเป๊ะๆ ทั้งหมด แต่ทำให้เราคุยโต้ตอบได้เร็ว ได้ดูหนังฝรั่งซับภาษาอังกฤษ ฟังออกบ้างไม่ออกบ้างก็ไม่เป็นไร ถือว่าเป็นการเลียนเสียง ถ้าอยากเก่งอะไรก็ต้องฝึกกับสิ่งนั้น

ภาษาอังกฤษช่วยให้เติบโตในอาชีพอย่างไรบ้าง

การที่สามารถสื่อสารภาษาอังกฤษได้ เวลาทำงานจึงมักจะได้รับความไว้วางใจให้รับผิดชอบหน้าที่ที่สูงขึ้น  เราเรียนจบแค่ ม.6 เพราะต้องออกมาทำงาน ตอนทำงานแรกๆ ไม่ได้รับการยอมรับจากเพื่อนร่วมงาน เพราะเป็นเด็กต่างจังหวัด เรียนน้อย ต้องใช้เวลาพิสูจน์ความพยายามของตัวเองพอสมควร จนสุดท้ายได้รับการคัดเลือกให้เป็นหัวหน้างาน ส่วนหนึ่งของโอกาสนี้มาจากการที่เราสามารถสื่อสารภาษาอังกฤษได้ การพูดได้มากกว่า 1 ภาษาช่วยให้เรามีโอกาสมากขึ้นในหลายๆ อย่างค่ะ

ทุนยุวพัฒน์สามารถช่วยแบ่งเบาอะไรได้บ้าง

เรามีโอกาสได้เรียนจนจบชั้น ม.6 โดยไม่เป็นภาระของพ่อแม่ก็เพราะเงินทุนยุวพัฒน์ สำหรับจ่ายค่าหนังสือ อุปกรณ์การเรียนและค่าอาหาร การได้รับทุนทำให้รู้คุณค่าของเงิน รู้จักใช้เงิน และรู้ว่าเราต้องหาเงินด้วยตัวเองให้ได้ ช่วงปิดเทอมจึงไปรับจ้างทำงานพิเศษ และสิ่งที่มีค่ามากที่สุดจากการได้รับทุนื คือ ทุนยุวพัฒน์ทำให้อยากเป็น “ผู้ให้” เพราะการได้เป็นผู้รับทำให้เรารู้สึกซาบซึ้งในน้ำใจของใครหลายๆ คนที่ตั้งใจหยิบยื่นโอกาสให้เราได้มีวิชาความรู้เลี้ยงตัวเองและครอบครัวได้ เพราะไม่มีอะไรจะดีไปกว่าการมีความรู้ติดตัว

ไม่มีอะไรที่เราทำไม่ได้ขอแค่เชื่อมั่นในตัวเอง
ทุกอย่างเป็นจริงได้จากตัวเราลงมือทำ