หลังจากปฏิบัติการติดปีกครูนางฟ้า รุ่นที่ 1 ได้สร้างผลลัพธ์เชิงบวกที่เป็นรูปธรรมในการดูแลประคับประคองนักเรียน และสร้างความเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญให้เกิดขึ้นในโรงเรียนหลายแห่งที่เข้าร่วมโครงการ จนเกิดเสียงสะท้อนจากคุณครูว่า “ห้องเรียนเกิดการเปลี่ยนแปลงไปในทิศทางที่ดีขึ้นมากๆ”
ด้วยความสำเร็จและพลังแห่งการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นนี้เอง โครงการทุนการศึกษา โดยมูลนิธิยุวพัฒน์ และ สถาบันพัฒนาระบบบริการสุขภาพองค์รวม ภายใต้มูลนิธิสาธารณะสุขแห่งชาติ จึงสานต่อพันธกิจสำคัญ จัดค่ายอบรมครูนางฟ้าเป็นรุ่นที่ 2 ในโซนภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เมื่อวันที่ 6 – 7 พฤศจิกายน 2568 จังหวัดขอนแก่น โดยมีผู้อำนวยการและคณะครู จำนวน 49 คน จาก 10 โรงเรียนภาคีเครือข่ายที่สมัครเข้าร่วม
การปฏิบัติภารกิจติดปีกนางฟ้าให้คุณครู ก็เพื่อเสริมศักยภาพให้ครูทุกคนเป็นที่พึ่งทางใจของนักเรียน” ซึ่งไม่ได้มุ่งเน้นแค่การสอนหนังสือ แต่เป็นการเติมเต็ม “หัวใจ” และ “ทักษะ” ที่จะเปลี่ยนครูทุกคนให้กลายเป็น “ครูนางฟ้า” สำหรับลูกศิษย์
หลายคนอาจคิดว่าการเป็นที่ปรึกษาหรือที่พึ่งทางใจของนักเรียน
เป็นหน้าที่หลักของ “ครูแนะแนว” เท่านั้น แต่ค่ายอบรมนี้
ได้เปิดมุมมองใหม่และตอกย้ำความจริงที่ว่า… คุณครูทุกคนก็สามารถเป็นได้
เมื่อทุกห้องเรียนมี “ครูนางฟ้า”
ไม่ว่าจะเป็นครูคณิตศาสตร์ที่สอนเรื่องสูตรยาก ๆ
ครูภาษาไทยที่พาไปท่องโลกวรรณกรรม
หรือครูวิทยาศาสตร์ที่พาไปสำรวจจักรวาล
ทุกวินาทีที่ครูใช้เวลากับนักเรียน ในห้องเรียน นอกห้องเรียน
หรือแม้แต่ระหว่างเดินผ่านกันในทางเดิน ล้วนเป็น “โอกาสสำคัญ”
ที่ครูจะได้ ฟังอย่างลึกซึ้ง (Deep Listening) และ สื่อสารอย่างเข้าใจ
เรื่องราวของการเป็น “ครูนางฟ้า” ไม่ได้เริ่มต้นที่การเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านจิตวิทยา
แต่เริ่มต้นที่ “ความใส่ใจ” และ “การเปิดใจ” ที่จะมองเห็นสัญญาณเตือนภัยในตัวเด็ก ๆ
โดยเฉพาะเด็กกลุ่มเปราะบางที่อาจกำลังต่อสู้กับภาระที่คนรอบข้างไม่รู้
“เงินทุนการศึกษาสามารถช่วยให้เด็กเข้าเรียนได้
แต่สิ่งที่จะทำให้พวกเขาอยู่ในระบบจนจบการศึกษา
คือความรู้สึกที่มีคนเข้าใจ มีที่พึ่ง และมีกำลังใจในทุก ๆ วัน”
ทักษะเล็ก ๆ ที่สร้างการเปลี่ยนแปลงใหญ่
ภายในค่ายอบรม 2 วันเต็มที่จังหวัดขอนแก่น
คุณครูผู้เข้าร่วมได้เรียนรู้ผ่านกิจกรรมเชิงปฏิบัติ เช่น
การฝึกฟังอย่างลึกซึ้งเพื่อเข้าใจความรู้สึกของเด็กอย่างแท้จริง
และการฝึก “สื่อสารเพื่อสร้างแรงจูงใจและเปลี่ยนแปลงพฤติกรรม”
หรือที่เรียกว่า Motivational Interviewing (MI)
กิจกรรมเหล่านี้อาจดูเรียบง่าย แต่กลับทรงพลัง
เพราะช่วยให้คุณครูมองเห็นคุณค่าของ “การฟังโดยไม่ตัดสิน”
และตระหนักว่า การเป็น “ผู้รับฟังที่ดีที่สุด” ในเวลาที่เหมาะสม
เป็นจุดเริ่มต้นของการเปลี่ยนแปลงชีวิตเด็กคนหนึ่งได้จริง ๆ
ทักษะเหล่านี้เปรียบเสมือน “ปีกเล็ก ๆ” ที่ถูกติดตั้งให้กับครูทุกคน
เพื่อให้พวกเขามั่นใจมากขึ้นในการเผชิญหน้ากับเด็กที่กำลังเผชิญปัญหา
ไม่จำเป็นต้องมีคำตอบทุกอย่าง แต่เพียงเปิดใจอยู่ข้าง ๆ ก็มีความหมายมากแล้ว
พลังแห่งการเปลี่ยนแปลง… เริ่มขึ้นแล้ว
เมื่อจบการอบรม ครูผู้เข้าร่วมไม่ได้กลับไปพร้อมเพียงเอกสารหรือองค์ความรู้ใหม่
แต่กลับไปพร้อม “พันธกิจใหม่” ในการเป็นที่พึ่งทางใจให้ลูกศิษย์ของตัวเอง
ครูหลายคนจะเริ่มนำสิ่งที่ได้เรียนรู้ไปปรับใช้ในห้องเรียน
ครูบางคนจะเริ่ม “ตั้งใจฟัง” เด็กที่เคยไม่พูด
ครูบางคนจะเริ่ม “ตั้งถามด้วยความห่วงใย” แทนการตำหนิ
การเปลี่ยนแปลงเล็ก ๆ น้อย ๆ เหล่านี้ กำลังกลายเป็นคลื่นแห่งความหวัง
ที่ส่งต่อจากห้องอบรมเล็กๆ ห้องหนึ่ง ไปสู่อีกห้องเรียนของเด็ก ๆ อีกหลาย ๆ ห้อง
เพราะทุกครั้งที่เด็กคนหนึ่งรู้สึกว่า “มีคุณครูที่เข้าใจ”
เขาจะมีแรงลุกขึ้นสู้กับชีวิตอีกครั้งและไม่ต้องเผชิญกับปัญหาเพียงลำพัง
มูลนิธิยุวพัฒน์ เชื่อมั่นว่า…
การเสริมศักยภาพให้ครูทุกคนสามารถเป็นที่พึ่งทางใจได้
คือก้าวสำคัญที่จะช่วยให้นักเรียนมีภูมิคุ้มกันทางใจ
เติบโตเป็นผู้ใหญ่ที่ดี มีคุณภาพ และไม่หลุดออกจากระบบการศึกษา
คุณครูทุกท่านได้ “ติดปีกนางฟ้า” แล้ว และพร้อมที่จะโบยบิน
นำทางลูกศิษย์ทุกคนด้วย “ความเข้าใจและความรัก”
เพราะว่า…แค่การฟังด้วยใจจากครูคนหนึ่ง
ก็สามารถเปลี่ยนโลกของเด็กคนหนึ่งให้สวยงามเพิ่มขึ้นได้
