“เฮ้อ…”
เสียงถอนหายใจของหญิงสาวคนหนึ่ง ที่ในมือของเธอมีชาเขียวน้ำตาล 0%

“ชีวิตคนเรานี่มันจืดชืดได้ถึงขนาดนี้เลยเหรอเนี่ย”
เธอได้แต่ชายตามองขวดชาเขียวสลับกับคลื่นทะเลที่ซัดเข้าฝั่งมาตรงหน้าดัง ซู่ ซู่ ซู่

 “ขนาดนั้นเลยเหรอครับ ?”
เสียงจากบางสิ่งบางอย่างดังโต้ตอบกลับเธอ

“เสียงใครน่ะ”  

“ผมอยู่ตรงนี้ ก้มลงมาดูสิ”
เสียงลึกลับตอบ

“อ๊ะ! นายคือ เอ่ออ… สมาร์ทวอร์ทของฉันนี่ *0* ”

“ใช่ครับ สรุปว่าชีวิตคุณจืดชืดขนาดนั้นเลยเหรอครับ”

“อือ… ชีวิตฉันน่าเบื่อมาก ฉันเสียดายช่วงเวลาที่ผ่านมานะ
คิดว่าถ้าย้อนกลับไปได้จะตั้งใจใช้ชีวิตให้ดีกว่านี้
จะทำในสิ่งที่อยากทำ เชื่อมั่นในตัวเองให้มากกว่านี้”

“งั้นผมขอถามหนึ่งคำถามนะครับ ถ้าคุณเสียดายเวลาที่ผ่านมาขนาดนี้
ทำไมตอนนั้นถึงไม่ใช้เวลาที่มีอยู่ให้คุ้มค่าล่ะครับ”

“อืมม…คงเพราะตอนนั้นฉันยังไม่รักตัวเองมากพอ
ฉันไม่เห็นคุณค่าของตัวเองด้วยซ้ำ คิดว่าแค่ใช้ชีวิตไปตามแบบที่
คนรอบข้างต้องการก็ไม่น่ามีปัญหาอะไร ขนาดเรื่องเรียนฉันยัง
เรียนตามที่คนอื่นอยากให้เรียนเลย ถึงได้มานั่งเบื่ออยู่นี่ไงล่ะ”

“พร้อมจะกลับไปอดีตหรือยังครับ ถ้าพร้อมแล้ว
ให้พูดโค้ดลับว่า ‘ชีวิตเป็นของฉัน ฉันจะใช้มันเพื่อตัวฉันเอง’
ระบบจะนำทางพาคุณย้อนกลับไปในอดีตทันที”

“ชีวิตเป็นของฉัน ฉันจะใช้มันเพื่อตัวฉันเอง”
เธอพูดเสียงดัง ทันใดนั้นร่างของเธอก็ได้หายไปในชั่วพริบตา

ตึ่ง ตึ๊ง ตึง ตึ่ง ~
เสียงกริ่งของโรงเรียนแห่งหนึ่งดังขึ้น เป็นการบอกว่าถึงเวลาพักเที่ยงแล้ว

“เปิ้ล!! ตื่นได้แล้ว ไปกินข้าวกันเถอะ”
หญิงสาวสะดุ้งตื่น เพราะเสียงเรียกและต้องตกใจเป็นอย่างมาก เมื่อพบว่า ณ ตอนนี้เธอได้กลายเป็นเด็กมัธยม หมายความว่าเจ้าสมาร์ทวอร์ทพาเธอย้อนเวลากลับมาอดีตได้จริง ๆ

“เอาล่ะ มาเริ่มใช้ชีวิตกันอีกครั้งนะ”
เพราะถ้าไม่ตั้งใจและทุ่มเทอย่างสุดตัว เธอก็คงจะสอบเข้าคณะที่ต้องการไม่ได้แน่ ๆ เธอรีบลุกขึ้นและเดินไปโรงอาหารพร้อมกับเพื่อนสาวที่สนิทของเธอ

“กินข้าวเสร็จเราไปนั่งเล่นกันไหมเปิ้ล”
เพื่อนสาวที่สนิทของเธอถาม

“ฉันว่าจะไปห้องสมุด จะไปหาหนังสือเตรียมสอบอ่านสักหน่อย เมย์ไปด้วยกันไหม”

“ว้าว วันนี้ผิดคาดมาก คิดไม่ถึงว่าเธอจะชวนไปอ่านหนังสือ แต่ก็เอาสิ ไปกันเลยไหม”

ตั้งแต่เปิ้ลย้อนเวลากลับมา จนถึงตอนนี้ก็เกือบ 2 สัปดาห์แล้ว ไม่รู้เหมือนกันว่าเจ้าสมาร์ทวอร์ทจะให้เธออยู่เพื่อแก้ไขอดีตอีกนานแค่ไหน แต่เธอก็ได้ปรับและวางแผนการใช้ชีวิตของเธอให้เคร่งครัดและจริงจังขึ้น เธอใช้เวลาที่ได้มาในทุกวินาทีอย่างคุ้มค่ามากที่สุด ในทุกเช้าของทุกวันประมาณช่วงตี 5 – 6 โมงเช้า เธอจะใช้เวลาในการเตรียมตัวสำหรับบทเรียนที่จะเรียนในวันนั้น ๆ เสมอ เมื่อจบวันเธอก็จะหาเวลาประมาณ 2 – 3 ชั่วโมงเพื่อทำการบ้านและทบทวนบทเรียน หรือบางวันก็ชวนเมย์เพื่อนคนสนิทมาติวหนังสือด้วยกัน

“แหม…เปิ้ล ขยันจังเลยนะ สอบหมอไม่ใช่เรื่องง่าย
แค่อ่านหนังสือในห้องสมุดไม่ช่วยให้สอบได้หรอกนะ
เธอต้องไปติวกับอาจารย์ที่เก่ง ๆ ด้วย
อ่านหนังสือไปก็เท่านั้นแหละ ไม่ช่วยอะไรหรอก
คนเก่งกว่าเธอมีตั้งเยอะแยะ”
คำพูดนี้ทำให้ใจของเปิ้ลหล่นหายไปทันที ความหวังที่มีมาตลอดเริ่มสั่นคลอน

“เป็นอะไรไปเปิ้ล ทำไมอยู่ดีๆ ก็นิ่งไปแบบนี้ล่ะ ตาแดงด้วยเนี่ย”

“มีคนบอกเราว่า การจะสอบหมอมันไม่ง่าย แค่อ่านหนังสือมันไม่พอ
เราต้องไปสมัครเรียนติว ท้อแล้วเนี่ยยย”  

“แล้วเธอก็เชื่อเขาหรอ เธอดูสิ คะแนนเก็บแต่ละวิชาของเธอเป็นยังไง
มันดีขึ้นจากเมื่อก่อนขนาดไหน แล้วเพราะอะไรถึงได้เพิ่มขึ้นขนาดนี้
ถ้าไม่ใช่เพราะสิ่งที่เธอทำอยู่”

ประโยคที่เมย์พูดทำให้เปิ้ลรู้สึกได้ถึงคำว่าต้อง “รักตัวเอง” ก่อนอื่นต้องพัฒนาตัวเองอยู่เสมอ ไม่ปล่อยตัวเองไปเรื่อยเปื่อย เพื่อเตรียมตัวให้พร้อมกับโอกาสที่อาจจะเข้ามา และอีกข้อที่สำคัญคือ การมองเห็นคุณค่าในตัวเรา อย่ายอมให้ใครมาด้อยค่าเรา

เปิ้ลไม่รู้ว่าอีกนานแค่ไหน เธอจะกลับไปในโลกปัจจุบันได้ เธอครุ่นคิดว่าจะสามารถแก้ไขอดีตได้ทุกเรื่องหรือเปล่า แต่ที่แน่ๆ เปิ้ลรู้สึกว่าการได้ย้อนเวลากลับมา ทำให้เธอได้สัมผัสถึงคุณค่ามากมายของการ “รักตัวเอง” เธอสัมผัสได้ว่าโลกนี้ไม่มีใครจะรักเธอได้มากเท่ากับ “ตัวเธอเอง” และคงไม่ใช่เรื่องง่ายที่เธอจะได้ย้อนเวลากลับมาแก้ไขอดีตอีก สมาร์ชวอทของเธอคงไม่ใจดีขนาดนั้น

“เปิ้ลลล….”
เสียงเพื่อนสาวตะโกนเรียกชื่อเธอดังสนั่นจนทำให้เปิ้ลตกใจสะดุ้งโหยง

“นั่งเหม่ออะไรเนี่ย ไปกินชาบูกัน ปล่อยให้คนเก่งๆ เขาอ่านหนังสือไปเถอะ
ส่วนเราเรียนอะไรก็เหมือนเดิมแหละ”

“อะไรกันของเะอกันเนี้ยะ ทำไมเธอไม่เคารพและรักตัวเองเลย”
เปิ้ลยังคงไม่เข้าใจและงงกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ได้แต่ตอบปฏิเสธ
และบอกตัวเองว่า “ชีวิตเป็นของฉัน ฉันจะใช้มันเพื่อตัวฉันเอง”

… “ฉันรักตัวเอง” …

ผู้เขียน : สุทธิลักษณ์ เสียงวัฒนะ
#อาสาเขียนบทความ